ล่าสุด‼️ ราชวงศ์ญี่ปุ่นสละราชสมบัติ😱
“เจ้าชายนารุฮิโตะ...จักรพรรดิ เร วะ
ว่าที่จักรพรรดิพระองค์ใหม่ รัชกาลที่ 126 ของญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นเรียก "จักรพรรดิ" ว่า เท็นโน (天皇) หมายถึง เทพเจ้าที่มาจากสวรรค์ ซึ่งเป็นคำจำกัดความของ "กษัตริย์ญี่ปุ่น" ราชวงศ์ญี่ปุ่นได้รับการเคารพในฐานะอวตารเทพ
ราชวงศ์อิมพีเรียล ของญี่ปุ่น เป็นราชวงศ์ที่สืบเนื่องมายาวนานที่สุดในโลก จักรพรรดิจิมมุ พระนาม คามูยามาโตะ อิวาเรบิโกะ เป็น ปฐมจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ครองราชย์ 660 ปีก่อนคริสตกาล ถึง 585 ปีก่อนคริสตกาล
แต่เป็นเวลาหลายร้อยปีที่พระราชอำนาจของจักรพรรดิแทบไม่มี ทรงเป็นห่นเชิดของ โชกุน ซึ่ง เป็นตำแหน่งที่เสมือนผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในทุกๆเรื่อง จนกระทั่งชถึงราชสมัย จักรพรรดิเมจิ ซึ่งถือว่าเป้นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวที่มีพระราชอำนาจมากที่สุด
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ จักรพรรดิพระองค์ที่ 125 แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่นจะทรงสละราชสมบัติในวันที่ 30 เมษายน 2019 นี้ เนื่องด้วยพระชนมายุที่มากขึ้น และพระพลานามัยที่อ่อนแรงลง ทำให้ทรงเกรงว่าจะไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการสละราชสมบัติในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี ของราชวงศ์ดอกเบญจมาศเลยทีเดีย
ด้วยเหตุนี้ตำแหน่งว่าที่จักรพรรดิพระองค์ที่ 126 จึงตกเป็นของเจ้าชายนารุฮิโตะ มงกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าพระองค์จะทรงกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศและประชาชนชาวญี่ปุ่นต่อไปในภายภาคหน้า
เจ้าชายนารุฮิโตะ มงกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น นับว่าเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นของราชวงศ์ดอกเบญจมาศเลยก็ว่าได้ พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์โตของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ประสูติเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1960 ปัจจุบันมีพระชนมายุ 58 พรรษา พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยกะกุชุอิง จากนั้นทรงศึกษาต่อที่วิทยาลัยเมอร์ตันแห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร ซึ่งนอกจากด้านประวัติศาสตร์ที่พระองค์ทรงสนพระทัยมากแล้ว ยังมีด้านดนตรีและกีฬา โดยพระองค์ทรงโปรดการสีวิโอลาเป็นอย่างมาก รวมถึงทรงชอบวิ่งจ๊อกกิ้งและปีนเขาในยามว่าง
หากเทียบความคล้ายคลึงกันระหว่างว่าที่จักรพรรดิพระองค์ใหม่กับจักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันซึ่งเป็นพระราชบิดาแล้ว นับว่ามีความใกล้เคียงกันในหลายๆ เรื่อง อย่างแรกคือการเสด็จขึ้นครองราชย์ในฐานะมงกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ต่อมาคือพระชนมายุในการเสด็จขึ้นครองราชย์ที่ไล่เลี่ยกัน โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงขึ้นครองราชย์ขณะมีพระชนมายุ 56 พรรษา ซึ่งในปีหน้านี้เจ้าชายนารุฮิโตะจะทรงมีพระชนมายุ 59 พรรษา นับว่าต่างจากพระราชบิดาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
กหนึ่งเรื่องสำคัญอย่างชีวิตความรัก เจ้าชายนารุฮิโตะก็ทรงเจริญรอยตามพระราชบิดาอย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะนับเป็นสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นพระองค์แรกที่อภิเษกสมรสกับสตรีสามัญชน ในขณะนั้นยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นถึงมกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ทำให้ต้องเผชิญกับกระแสต่อต้านมากมาย แต่ก็ทรงฝ่าฟันได้สำเร็จ เช่นเดียวกันกับเจ้าชายนารุฮิโตะที่ทรงพบรักกับหญิงสามัญชน นั่นคือ มาซาโกะ โอวาดะ (ปัจจุบันคือ เจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น) นักการทูตในกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกว่าความรักของทั้งคู่จะลงเอยก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไม่น้อยเช่นกัน เพราะมาซาโกะมีความกังวลใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในราชวงศ์ญี่ปุ่นที่มีความอนุรักษ์นิยมสูง และแน่นอนว่าจะต้องก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดินีในอนาคตอีกด้วย
แต่สุดท้ายเจ้าชายนารุฮิโตะก็แสดงความรักที่มีต่อหญิงสามัญชนอย่างหนักแน่นและจริงใจ เฉกเช่นเดียวกับพระราชบิดาด้วยการตรัสกับมาซาโกะว่า “คุณอาจจะหวาดกลัวและกังวลในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ แต่ผมจะปกป้องคุณตลอดทั้งชีวิตของผม” ซึ่งนับตั้งแต่นั้น เจ้าชายนารุฮิโตะก็ทรงรักษาคำมั่นสัญญาที่มีต่อพระชายาอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เห็นได้จากการเผชิญปัญหาต่างๆ หลังการอภิเษกสมรสของทั้งสองพระองค์ ซึ่งเจ้าชายนารุฮิโตะทรงปกป้องเจ้าหญิงมาซาโกะเสมอ ตั้งแต่การถูกกดดันให้มีพระโอรสเป็นองค์รัชทายาทเพื่อสืบราชสมบัติในอนาคต การแท้งในการทรงครรภ์ครั้งแรก จนกระทั่งเจ้าหญิงมาซาโกะทรงมีพระประสูติกาลเจ้าหญิงไอโกะแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นพระโอรสตามที่หลายคนคาดหวัง ทำให้เจ้าหญิงมาซาโกะทรงเครียดมากและมีภาวะซึมเศร้า จนแทบจะไม่ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนเลยเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลานั้นเจ้าชายนารุฮิโตะทรงขอให้ทุกคนเข้าใจปัญหาของเจ้าหญิงมาซาโกะ และทรงเคียงข้างเพื่อให้กำลังเจ้าหญิงมาซาโกะเสมอ ทำให้ปัจจุบันเจ้าหญิงมาซาโกะทรงเริ่มกลับมาปฏิบัติพระกรณียกิจตามปกติแล้ว และทรงฉลองครบรอบ 25 ปี ของการอภิเษกสมรสไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับบทบาทของเจ้าชายนารุฮิโตะในฐานะว่าที่ประมุข แม้ก่อนหน้านี้จะยังไม่เด่นชัดเท่าที่ควร แต่หลังจากที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงประกาศสละราชสมบัติ เจ้าชายนารุฮิโตะก็ทรงแสดงพระราชปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า จะทรงอุทิศพระวรกายและตั้งพระราชหฤทัยเพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะจักรพรรดิ โดยดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระราชบิดา ทำให้ช่วงที่ผ่านมาปรากฏภาพการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของเจ้าชายนะรุฮิโตะมากขึ้น ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณที่ดีของว่าที่จักรพรรดิพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นศูนย์รวมจิตใจของราชวงศ์ดอกเบญจมาศและประชาชนชาวญี่ปุ่นต่อไป
ว่าที่จักรพรรดิพระองค์ใหม่ รัชกาลที่ 126 ของญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นเรียก "จักรพรรดิ" ว่า เท็นโน (天皇) หมายถึง เทพเจ้าที่มาจากสวรรค์ ซึ่งเป็นคำจำกัดความของ "กษัตริย์ญี่ปุ่น" ราชวงศ์ญี่ปุ่นได้รับการเคารพในฐานะอวตารเทพ
ราชวงศ์อิมพีเรียล ของญี่ปุ่น เป็นราชวงศ์ที่สืบเนื่องมายาวนานที่สุดในโลก จักรพรรดิจิมมุ พระนาม คามูยามาโตะ อิวาเรบิโกะ เป็น ปฐมจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ครองราชย์ 660 ปีก่อนคริสตกาล ถึง 585 ปีก่อนคริสตกาล
แต่เป็นเวลาหลายร้อยปีที่พระราชอำนาจของจักรพรรดิแทบไม่มี ทรงเป็นห่นเชิดของ โชกุน ซึ่ง เป็นตำแหน่งที่เสมือนผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในทุกๆเรื่อง จนกระทั่งชถึงราชสมัย จักรพรรดิเมจิ ซึ่งถือว่าเป้นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวที่มีพระราชอำนาจมากที่สุด
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ จักรพรรดิพระองค์ที่ 125 แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่นจะทรงสละราชสมบัติในวันที่ 30 เมษายน 2019 นี้ เนื่องด้วยพระชนมายุที่มากขึ้น และพระพลานามัยที่อ่อนแรงลง ทำให้ทรงเกรงว่าจะไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการสละราชสมบัติในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี ของราชวงศ์ดอกเบญจมาศเลยทีเดีย
ด้วยเหตุนี้ตำแหน่งว่าที่จักรพรรดิพระองค์ที่ 126 จึงตกเป็นของเจ้าชายนารุฮิโตะ มงกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าพระองค์จะทรงกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศและประชาชนชาวญี่ปุ่นต่อไปในภายภาคหน้า
เจ้าชายนารุฮิโตะ มงกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น นับว่าเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นของราชวงศ์ดอกเบญจมาศเลยก็ว่าได้ พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์โตของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ประสูติเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1960 ปัจจุบันมีพระชนมายุ 58 พรรษา พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยกะกุชุอิง จากนั้นทรงศึกษาต่อที่วิทยาลัยเมอร์ตันแห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร ซึ่งนอกจากด้านประวัติศาสตร์ที่พระองค์ทรงสนพระทัยมากแล้ว ยังมีด้านดนตรีและกีฬา โดยพระองค์ทรงโปรดการสีวิโอลาเป็นอย่างมาก รวมถึงทรงชอบวิ่งจ๊อกกิ้งและปีนเขาในยามว่าง
หากเทียบความคล้ายคลึงกันระหว่างว่าที่จักรพรรดิพระองค์ใหม่กับจักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันซึ่งเป็นพระราชบิดาแล้ว นับว่ามีความใกล้เคียงกันในหลายๆ เรื่อง อย่างแรกคือการเสด็จขึ้นครองราชย์ในฐานะมงกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ต่อมาคือพระชนมายุในการเสด็จขึ้นครองราชย์ที่ไล่เลี่ยกัน โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงขึ้นครองราชย์ขณะมีพระชนมายุ 56 พรรษา ซึ่งในปีหน้านี้เจ้าชายนารุฮิโตะจะทรงมีพระชนมายุ 59 พรรษา นับว่าต่างจากพระราชบิดาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
กหนึ่งเรื่องสำคัญอย่างชีวิตความรัก เจ้าชายนารุฮิโตะก็ทรงเจริญรอยตามพระราชบิดาอย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะนับเป็นสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นพระองค์แรกที่อภิเษกสมรสกับสตรีสามัญชน ในขณะนั้นยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นถึงมกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ทำให้ต้องเผชิญกับกระแสต่อต้านมากมาย แต่ก็ทรงฝ่าฟันได้สำเร็จ เช่นเดียวกันกับเจ้าชายนารุฮิโตะที่ทรงพบรักกับหญิงสามัญชน นั่นคือ มาซาโกะ โอวาดะ (ปัจจุบันคือ เจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น) นักการทูตในกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกว่าความรักของทั้งคู่จะลงเอยก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไม่น้อยเช่นกัน เพราะมาซาโกะมีความกังวลใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในราชวงศ์ญี่ปุ่นที่มีความอนุรักษ์นิยมสูง และแน่นอนว่าจะต้องก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดินีในอนาคตอีกด้วย
แต่สุดท้ายเจ้าชายนารุฮิโตะก็แสดงความรักที่มีต่อหญิงสามัญชนอย่างหนักแน่นและจริงใจ เฉกเช่นเดียวกับพระราชบิดาด้วยการตรัสกับมาซาโกะว่า “คุณอาจจะหวาดกลัวและกังวลในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ แต่ผมจะปกป้องคุณตลอดทั้งชีวิตของผม” ซึ่งนับตั้งแต่นั้น เจ้าชายนารุฮิโตะก็ทรงรักษาคำมั่นสัญญาที่มีต่อพระชายาอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เห็นได้จากการเผชิญปัญหาต่างๆ หลังการอภิเษกสมรสของทั้งสองพระองค์ ซึ่งเจ้าชายนารุฮิโตะทรงปกป้องเจ้าหญิงมาซาโกะเสมอ ตั้งแต่การถูกกดดันให้มีพระโอรสเป็นองค์รัชทายาทเพื่อสืบราชสมบัติในอนาคต การแท้งในการทรงครรภ์ครั้งแรก จนกระทั่งเจ้าหญิงมาซาโกะทรงมีพระประสูติกาลเจ้าหญิงไอโกะแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นพระโอรสตามที่หลายคนคาดหวัง ทำให้เจ้าหญิงมาซาโกะทรงเครียดมากและมีภาวะซึมเศร้า จนแทบจะไม่ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนเลยเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลานั้นเจ้าชายนารุฮิโตะทรงขอให้ทุกคนเข้าใจปัญหาของเจ้าหญิงมาซาโกะ และทรงเคียงข้างเพื่อให้กำลังเจ้าหญิงมาซาโกะเสมอ ทำให้ปัจจุบันเจ้าหญิงมาซาโกะทรงเริ่มกลับมาปฏิบัติพระกรณียกิจตามปกติแล้ว และทรงฉลองครบรอบ 25 ปี ของการอภิเษกสมรสไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับบทบาทของเจ้าชายนารุฮิโตะในฐานะว่าที่ประมุข แม้ก่อนหน้านี้จะยังไม่เด่นชัดเท่าที่ควร แต่หลังจากที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงประกาศสละราชสมบัติ เจ้าชายนารุฮิโตะก็ทรงแสดงพระราชปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า จะทรงอุทิศพระวรกายและตั้งพระราชหฤทัยเพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะจักรพรรดิ โดยดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระราชบิดา ทำให้ช่วงที่ผ่านมาปรากฏภาพการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของเจ้าชายนะรุฮิโตะมากขึ้น ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณที่ดีของว่าที่จักรพรรดิพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นศูนย์รวมจิตใจของราชวงศ์ดอกเบญจมาศและประชาชนชาวญี่ปุ่นต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น